เอเจนซี – การทำงานในออฟฟิศที่มีแปลนแบบเปิดโล่ง ขาดพื้นที่ส่วนตัว แทนที่จะส่งเสริมการสื่อสารระหว่างเพื่อนร่วมงานตามที่คาดหวัง กลับขัดขวางกิจกรรมในสมองและบั่นทอนสมาธิ
ที่ทำงานที่มีบรรยากาศแห้งแล้ง ที่พนักงานถูกห้ามนำสมบัติส่วนตัวมาประดับหรือตั้งวางบนโต๊ะหรือผนังข้างตัว ยังทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงถึง 15% เนื่องจากพนักงานไม่รู้สึกสะดวกสบายใจกับสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่
สำนักงานที่มีการออกแบบตกแต่งเน้นการเปิดโล่งได้รับการเปิดตัวครั้งแรกในช่วงทศวรรษ 1950 ภายใต้วัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการสื่อสารระหว่างพนักงาน
ทว่า มาถึงตอนนี้ นักวิจัยกลับพบข้อดีมากกว่าข้อเสีย
การค้นพบนี้เปิดเผยอยู่ในรายการเดอะ ซีเคร็ต ไลฟ์ ออฟ บิวดิ้งส์ ที่ออกอากาศไปเมื่อคืนวันจันทร์ (8) ทางสถานีช่อง 4 ของอังกฤษ
ในรายการ ทอม ไดคอฟฟ์ ผู้ดำเนินรายการ สวมหมวกที่ติดตั้งอุปกรณ์วัดคลื่นสมองขณะทดลองนั่งทำงานในสำนักงานที่พลุกพล่านวุ่นวาย
ดร.แจ็ค ลูอิส นักประสาทวิทยาศาสตร์ผู้ทำการศึกษาเรื่องนี้ กล่าวว่าสำนักงานที่มีแปลนแบบเปิดโล่งได้รับการออกแบบมาภายใต้แนวคิดที่ว่า คนทำงานสามารถเดินไปไหนมาไหนได้ทั่วและโต้ตอบกันอย่างอิสระ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และวิธีการแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
“แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น ถ้าคุณกำลังนั่งทำงานอยู่แล้วมีเสียงโทรศัพท์ดังเป็นฉากหลัง สมาธิของคุณย่อมไขว้เขวโดยที่คุณอาจไม่รู้ตัว แต่จริงๆ แล้วสมองจะมีปฏิกิริยาต่อสิ่งที่เข้ามารบกวน”
รายการดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่า พยักงานที่ไม่ได้รับอนุญาตให้นำข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวมาไว้บนโต๊ะทำงานหรือติดบนผนังมีประสิทธิภาพการทำงานลดลง
ดร.เคร็ก ไนต์ นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยเอ็กเซ็ตเตอร์ กล่าวว่าบริษัทต่างๆ ชื่นชอบแนวคิดในการจัดพื้นที่ทำงานแบบกะทัดรัดที่ปราศจากสิ่งที่ทำให้สมาธิไขว้เขวให้พนักงาน แต่ในการทดลองกลับพบว่า พนักงานตอบสนองได้ดีกว่าในพื้นที่ที่มีภาพหรือต้นไม้ตกแต่งอยู่
“ถ้าคุณได้รับอนุญาตให้แต่งพื้นที่ทำงานของคุณด้วยของๆ คุณเอง จะทำให้รู้สึกเป็นสุขมากขึ้น 32% และประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น 15%”
งานศึกษาอีกฉบับจากสถาบันซาลค์ในซานดิเอโก สหรัฐฯ พบว่าสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งอาจทำให้ขนาดสมองเล็กลง
ศาสตราจารย์เฟร็ด เกจ ผู้นำการศึกษา เผยว่าสมองหนูทดลองโตขึ้น 15% เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีสิ่งเร้า เทียบกับในกรงเปล่าไม่มีอะไรเลย
ปีที่ผ่านมา ยูนิเวอร์ซิตี้ คอลเลจ ลอนดอนทำการสำรวจความคิดเห็นผู้ประกอบวิชาชีพ 20,000 คนในอังกฤษ เกี่ยวกับความสุขในสภาพแวดล้อมการทำงาน
การสำรวจพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม 56% บ่นเรื่องขาดความเป็นส่วนตัว, 55% ครวญเรื่องอุณหภูมิ และ 60% ไม่พอใจกับที่ทำงานที่เสียงดัง
นอกจากนี้ 1 ใน 3 กังวลกับการอยู่ในพื้นที่ทำงานที่ ‘ไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน’ และเสียงดังรบกวน
หลายคนบอกว่าตัวเอง ‘คลาน’ เข้าออฟฟิศและรู้สึกเหมือนเป็นไก่ไขลาน ซึ่งนักวิจัยชี้ว่าอาจเป็นที่มาของความหวาดระแวง
สำนักงานที่มีแปลนเปิดโล่งยังเป็นที่มาของการร้องเรียนเรื่องสุขภาพของพนักงาน
การศึกษาของนักวิชาการแดนจิงโจ้ในปี 2009 พบว่าสำนักงานแบบดังกล่าวทำให้เกิดบรรยากาศของความรีบร้อนลุกลน ส่งผลให้ความดันโลหิตของพนักงานสูงขึ้น สร้างความเครียด ความอ่อนเพลีย และไข้หวัด
ที่มา: www.manager.co.th
No comments:
Post a Comment